ภาวะตกเลือดหลังคลอด (Postpartum Hemorrhage) ภาวะที่คุณแม่ควรรู้ หลังการคลอด

เมื่อผ่านความลำบากในเรื่องของการตั้งครรภ์ไปแล้ว ลำดับถัดมาสำหรับคุณแม่นั่นก็คืออาการหลังคลอดนั่นเองค่ะ ซึ่งอาการหลังคลอดอย่าง ภาวะตกเลื 

 1024 views

เมื่อผ่านความลำบากในเรื่องของการตั้งครรภ์ไปแล้ว ลำดับถัดมาสำหรับคุณแม่นั่นก็คืออาการหลังคลอดนั่นเองค่ะ ซึ่งอาการหลังคลอดอย่าง ภาวะตกเลือดหลังคลอด (Postpartum Hemorrhage) เป็นหนึ่งในอาการที่เกิดขึ้นได้กับคุณแม่ทุกคน ถือเป็นภาวะรุนแรงที่ควรได้รับการรักษาทันที เพราะคุณแม่อาจเสี่ยงต่อการเสียชีวิตได้ หากไม่ได้รับการรักษาที่ถูกวิธี

วันนี้ Mamastory จะพาคุณแม่ไปทำความรู้จักกับอาการนี้ให้มากขึ้นค่ะ เพราะในประเทศไทยแล้ว ภาวะตกเลือดหลังคลอด นับเป็นหนึ่งในสาเหตุต้น ๆ ของการเสียชีวิตของคุณแม่

ภาวะตกเลือดหลังคลอด คืออะไร ?

ภาวะตกเลือดหลังคลอด หรือ Postpartum Hemorrhage: PPH เป็นหนึ่งในภาวะที่เกิดขึ้น หลังจากที่แม่ท้องคลอดลูกเสร็จแล้ว โดยเป็นการเสียเลือดหลังจากคลอดลูกเป็นปริมาณมากกว่า 1 ลิตร หรือปริมาณมากจนส่งผลให้ร่างกายเกิดความผิดปกติ โดยสามารถเกิดได้ 2 ลักษณะ คือ

  • ภายใน 24 ชั่วโมงหลังคลอด
  • ช่วงหลังจากคลอดไปแล้ว 24 ชั่วโมง ไปจนถึง 12 สัปดาห์



ภาวะตกเลือดหลังคลอด เป็นเหตุการณ์ที่เกิดได้กับแม่ท้องทุกคน ไม่ว่าจะเป็นการคลอดด้วยวิธีไหนก็ตาม เป็นภาวะรุนแรงที่สมควรได้รับการรักษาทันที หากตรวจพบระหว่างที่พักอยู่โรงพยาบาล แพทย์จะทำการรักษาคนไข้เป็นลำดับต่อไป แต่ถ้าหากภาวะนี้เกิดขึ้นในตอนที่กลับบ้านแล้ว เป็นเรื่องที่คนไข้ต้องหมั่นเฝ้าระวัง และเช็กอาการผิดปกติของตนเอง เพราะอาการตกเลือดเป็นหนึ่งในสาเหตุเสี่ยงต่อชีวิตของแม่หลังคลอด

ภาวะตกเลือดหลังคลอด



อาการตกเลือดหลังคลอด

โดยทั่วไปแล้ว แม่ที่มีอาการตกเลือดหลังคลอดจะมีอาการแตกต่างกันไป แต่อาการหลัก ๆ ที่พบได้บ่อยก็คือ มีเลือดออกจากช่องคลอดปริมาณมาก โดยมีไหลออกมาเป็นเวลาติดต่อกันนาน ในระยะแรกที่เริ่มเสียเลือด ร่างกายอาจจะยังไม่มีอาการผิดปกติใดให้สังเกตเห็น เป็นเหตุในช่วงแรกหลังคลอดแพทย์จะติดตามอาการอยู่เสมอ

อาการอื่น ๆ ที่อาจพบได้ เช่น เวียนศีรษะ จะเป็นลม คลื่นไส้ อาเจียน เห็นภาพเบลอ หนาวสั่น อ่อนเพลีย หัวใจเต้นเร็ว หายใจไม่อิ่ม ตัวซีด ผิวเย็น ช่องคลอดบวม ปวดบริเวณท้อง ปวดอุ้งเชิงกราน รู้สึกกระวนกระวาย เป็นต้น แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อหลังจากการคลอดลูกเสร็จสิ้น และแพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้ คุณแม่ควรสังเกตอาการตัวเองบ่อย ๆ หากพบอาการผิดปกติข้างต้น ควรรีบกลับไปพบแพทย์ทันทีอย่างปล่อยไว้

สาเหตุของภาวะตกเลือดหลังคลอด

เมื่อเริ่มตั้งครรภ์ ร่างกายจะสร้างรกเพื่อช่วยในการลำเลียงอาการ และกำจัดของเสียของทารก หลังจากที่แพทย์ทำคลอดแล้ว มดลูกจะหดตัวกลับสู่ขนาดปกติ เพื่อให้ร่างกายกลับสู่กลไกลตามธรรมชาติ ระหว่างนี้แพทย์จะคอยนวดบริเวณมดลูกควบคู่ไปด้วย เพื่อช่วยให้มดลูกหดตัวลงและนำรกออกได้ บางคนอาจพบเลือดยังคงไหลออกจากช่องคลอดไม่หยุด จนเกิดเป็นภาวะตกเลือดหลังคลอดตามมา โดยสาเหตุที่มักพบได้ เช่น

  • มดลูกหดตัวไม่แรงพอที่จะหยุดเลือดได้
  • เกิดความเสียหายจากการใช้เครื่องมือช่วยทำคลอด
  • เกิดความผิดปกติเกี่ยวกับรก
  • ป่วยเป็นโรคเกี่ยวกับการแข็งตัวของเลือด



ภาวะตกเลือดหลังคลอด



นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยเสี่ยงบางอย่างที่อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะตกเลือดหลังคลอดมากขึ้น เช่น

  • มดลูกขยายตัวมากผิดปกติ
  • ร่างกายมีน้ำคร่ำมากผิดปกติ
  • การทำคลอดที่ใช้เวลานาน
  • การทำคลอดด้วยวิธีผ่าคลอด
  • มีประวัติตกเลือดหลังคลอด
  • เคยทำคลอดมาแล้วหลายครั้ง โดยเฉพาะผู้ที่เคยคลอดมามากกว่า 5 ครั้ง
  • ตั้งครรภ์หลังอายุ 35 ปี
  • มีเนื้องอกมดลูกขนาดใหญ่
  • การใช้ยาจำพวกยากระตุ้นคลอด ยาต้านการหดตัวของมดลูก หรือยาระงับความรู้สึก



สาเหตุของการตกเลือดในภายหลัง

การตกเลือดในภายหลัง มักแสดงอาการในช่วง 1-2 สัปดาห์หลังคลอด โดยมีสาเหตุส่วนใหญ่มาจาก การที่มดลูกไม่สามารถหดตัวกลับสู่สภาวะปกติได้ ร่วมกับการมีเลือดออกผิดปกติ หรือที่รู้จักในชื่อ “มดลูกไม่เข้าอู่” โดยมีสาเหตุดังนี้

  1. มีภาวะติดเชื้อภายในโพรงมดลูก
  2. มีเศษรกค้างภายในโพรงมดลูก
  3. มีแขนงของเส้นเลือดโป่งพองภายในโพรงมดลูก
  4. มีลักษณะของน้ำคาวปลาที่ผิดปกติ

ความเสี่ยงต่อการติดเชื้อภายในโพรงมดลูก

  • การผ่าตัดคลอดบุตร
  • มีประวัติมีเชื้อแบคทีเรียในช่องคลอด
  • มีประวัติน้ำเดินก่อนคลอด
  • มีภาวะติดเชื้อในถุงน้ำคร่ำก่อนคลอด
  • มีภาวะทารกถ่ายขี้เทาในถุงน้ำคร่ำ
  • ได้รับยาเร่งคลอดเป็นเวลานาน
  • แม่ตั้งครรภ์อายุน้อยกว่า 20 ปี
  • แม่ตั้งครรภ์ทารกแฝด
  • แม่มีน้ำหนักตัวมากกว่าปกติ



วิธีดูแลตัวเอง หากเกิดอาการตกเลือดหลังคลอด

ภาวะตกเลือดหลังคลอดเฉียบพลัน เป็นระยะวิกฤตที่แพทย์ต้องให้การรักษา เมื่อหลังคลอดแล้วต้องสังเกตตัวเองว่า มีเลือดออกทางช่องคลอดมากผิดปกติ เลือดออกเป็นลิ่ม ๆ มีอาการหน้ามืด วิงเวียนคล้ายจะเป็นลม หรือมีอาการคล้ายคลึงเหล่านี้หรือไม่ หากมีต้องรีบแจ้งให้ทราบโดยด่วน

บทความที่เกี่ยวข้อง : ติดเชื้อหลังคลอด ภาวะแทรกซ้อนต่อแม่เด็ก สาเหตุสำคัญที่แม่ท้องเสียชีวิต!

หากมีอาการเลือดออกหลังกลับไปพักฟื้นที่บ้าน แล้วผู้ป่วยมีการติดเชื้อในโพรงมดลูก หรือมีเศษรกค้างในโพรงมดลูก ปริมาณเลือดที่ออกจะไม่มากในทันที อาจเป็นเลือดสด ๆ ออกมาเล็กน้อยก่อน แล้วค่อย ๆ เพิ่มปริมาณขึ้นในภายหลัง อาจมีอาการอย่างอื่นร่วมด้วย ซึ่งผู้คลอดต้องแยกภาวะเลือดออกผิดปกติกับน้ำคาวปลาหลังคลอดให้ออก โดยสีน้ำคาวปลาจะค่อย ๆ จางลง ไม่กลับมามีสีแดงสดอีก และจะไม่มีไข้หรือมีการปวดท้องน้อย

ภาวะตกเลือดหลังคลอด



ภาวะแทรกซ้อนของภาวะตกเลือดหลังคลอด

ตกเลือดหลังคลอดหากไม่ได้รับการรักษาที่ถูกวิธี อาจส่งผลให้เกิดภาวะแทรกซ้อนอื่นจากการเสียเลือด อาทิ อาการเวียนหัวตอนยืน อ่อนเพลีย โลหิตจาง ช็อก รวมไปจนถึงการเสียชีวิต ซึ่งนอกจากนี้ ภาวะตกเลือดหลังคลอดยังอาจส่งผลให้ผู้ป่วยเกิดกลุ่มอาการชีแฮน (Sheehan Syndrome) หรืออาจเสี่ยงต่อการเกิดภาวะรุนแรงอย่างโรคหัวใจขาดเลือดได้

วิธีป้องกันภาวะตกเลือดหลังคลอด

เมื่อถึงกำหนดก่อนคลอด หรือก่อนการคลอด ควรแจ้งข้อมูลและประวัติสุขภาพของคุณแม่ตั้งท้อง ให้แพทย์ทราบโดยละเอียด โดยเฉพาะกรุ๊ปเลือด รวมไปถึงประวัติโรคที่เกี่ยวกับการแข็งตัวของเลือด และภาวะตกเลือดครั้งก่อนด้วย เพื่อให้แพทย์พิจารณาความเสี่ยง และเตรียมการคลอดได้อย่างเหมาะสมกับคุณแม่

อย่างที่บอกค่ะว่าภาวะตกเลือดหลังคลอด เป็นหนึ่งในความเสี่ยงของการเสียชีวิต ต่อแม่ตั้งครรภ์หลายคน และเป็นภาวะที่สามารถพบได้ในทุกคน อีกทั้งถ้ามีประวัติเคยตกเลือดในครรภ์ก่อนหน้า ก็มีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นได้ซ้ำกับครรภ์ต่อไป และอีกข้อที่สำคัญสำหรับคุณแม่ท้องก็คือ ในระหว่างการฝากครรภ์ ควรจะต้องรับประทานยาบำรุงให้สม่ำเสมอ เพื่อที่จะได้มีเม็ดเลือดแดงมากพอ ในยามสำรองที่อาจจะเกิดอาการตกเลือดหลังคลอดด้วยค่ะ

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :

ภาวะแท้งคุกคาม ภาวะแทรกซ้อนระหว่างตั้งครรภ์ อันตรายที่เกิดได้ในไตรมาสแรก

เกล็ดเลือดต่ำระหว่างตั้งครรภ์ อันตรายที่ต้องควรระวัง หากเจอช้าแม่ท้องเสี่ยงเสียชีวิต !

โลหิตจางตอนท้อง รับมืออย่างไรให้ปลอดภัย ควรดูแลตัวเองแบบไหน

ที่มา : 1, 2